หนูเป็นสัตว์ค่อนข้างฉลาด เคลื่อนตัวรวดเร็ว หลบหลีกอันตรายได้เก่ง และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ทั้งยังแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในปีหนึ่งๆ หนูจะออกลูกได้หลายครอก และมีการคำนวณออกมาว่า ใน 1 ปี หนู 1คู่ สามารถขยายพันธุ์ได้มากกว่า 1,000 ตัว
ลักษณะสำคัญ
1. หนูเป็นสัตร์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดเล็ก (Small mammal)
2. หนูมีฟันแทะ (incisors) ทำให้มีนิสัยการกินแบบกัดแทะ ฟันมีความแข็งแกร่งมาก สามารถกัดแทะได้ทั้ ไม้ ปูน พลาสติก โลหะ หรือสายไฟ
3.หนูมีประสาทสัมผัสดีเยี่ยม ออกหากินในเวลากลางคืน มีจมูกที่รับกลิ่นต่างๆได้ดี รับรู้รสแปลกปลอมที่เป็นพิษในอาหารได้โดยง่าย
**หนูที่พบมากที่สุดในประเทศไทย มี 3 สกุล คือ หนูพุก(Bandicota spp.),(หนูท้องขาว Rattus spp.),(หนูหริ่ง Mus spp.)**
การป้องกันและจัดการหนู
ป้องกันและกำจัดให้ได้ผลนั้นต้องมีวิธีการที่ดีและถูกต้อง ซึ่งมีแนวทางดำเนินการใหญ่ ๆ 2 วิธีดังนี้ คือ
1. การปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในอาคารบ้านเรือน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมหนูแถาวร โดยมุ่งเน้นการกำจัดแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยของหนูและการป้องกันปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกบ้านอาคาร ดังมีรายละเอียดวิธีดำเนินการดังนี้
1.1 การป้องกันไม่ให้หนูเข้าสู่อาคารหรือที่พักอาศัย อาคารที่สามารถป้องกันไม่ให้หนูเข้าได้นั้นจะต้องไม่มีช่องหรือทางเปิดอื่นใดพอที่หนูจะเข้าไปได้ โดยการกรุด้วยตาข่ายหรือสิ่งที่สามารถป้องกันหนูเข้าได้ วัสดุที่ใช้ควรป้องกันการกัดแทะของหนูได้ เช่น คอนกรีต อิฐ หิน เหล็ก หรือกระเบื้องหนา ๆ สำหรับประตูไม้นั้นตามขอบและมุมของด้านล่างควรหุ้มด้วยโลหะเพื่อป้องกันหนูแทะ
1.2 การรวบรวมและกำจัดมูลฝอย จะช่วยทำลายแหล่งอาหารและที่พักอาศัยของหนู เพราะมูลฝอยเปียกแหล่งอาหารของหนู หนูชอบคุ้ยเขี่ยกิน ส่วนมูลฝอยแห้งหนูใช้ทำรังเพื่อเป็นที่อาศัย จึงควรเก็บมูลฝอยในที่รองรับที่ทำด้วยวัสดุแข็งแรง ใช้งานได้ดี ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด ป้องกันหนูและสุนัขได้ หรือเก็บมูลฝอยใส่ถุงดำก่อนนำไปกำจัด และจะต้องทำความสะอาดไม่ให้มีเศษอาหาร หรือกลิ่นอาหารอยู่ ท่อน้ำทิ้งไม่ควรมีเศษอาหารค้างทิ้งไว้ ควรทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งไม่ให้อุดตัน
1.3 การเก็บพวกอาหารแห้ง การเก็บอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมให้ปลอดภัยจากหนู จะเป็นการช่วยลดปริมาณแหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของหนูได้อย่างมาก วิธีการที่เหมาะสมควรวางไว้ในที่ยกพื้น ขาโต๊ะสูงจากพื้นอย่างน้อย 12 – 18 นิ้ว โดยไม่ควรวางชิดข้างฝาและไม่ควรซ้อน ๆ กันจนถึงเพดาน เพราะหนูชอบวิ่งตามแนวข้างฝา บริเวณพื้นด้านที่มีฝาผนังควรทาสีขาวเป็นแนวยาวตลอดฝาผนังทั้งห้อง โดยให้มีความกว้าง 6 นิ้ว เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจร่องรอยต่าง ๆ ของหนูและสะดวกในการทำความสะอาด
2. การทำลายหนูโดยตรง มีอยู่หลายวิธีคือ
2.1 วิธีกล เช่น ใช้กรงดัก กับดัก หรือกาวดัก การวางกับดักหรือกาวดักหนูควรวางไว้ที่ที่หนูมาหาอาหาร ทางเดินของหนู โดยวางชิดกับฝาผนัง
หรือวางซ้อนตามกองอาหาร สำหรับอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อควรเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ
2.2 การใช้สารเคมี เช่น การวางเหยื่อพิษ ต้องระมัดระวังการใช้ให้มาก โดยใช้ตามเอกสารคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเหยื่อพิษที่ใช้ควรเป็นชนิดตายช้า หนูกินครั้งเดียวจะไม่ตายจะต้องกินซ้ำ ๆ หลายครั้ง จึงจะมีสารเคมีจะสะสมอยู่ในตัวหนู ทำให้เลือดไม่แข็งตัว หรือทำลายวิตามินในเลือด ทำให้หนูเลือดตกในและตาย
2.3 การใช้สิ่งมีชีวิตช่วยควบคุม โดยเลี้ยงแมว สุนัข ฯลฯ
ที่มา : https://www.anamai.moph.go.th
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข